/> Short time with my short cake - Special strawberry short cake Skip to main content

Featured

No Bake Lemon Cheesecake /เลม่อนชีสเค้ก

ต่อจากบล็อกก่อนที่ชวนมาทำเลม่อนเคิร์ดกันทิ้งไว้นะคะ  ก็เพราะว่าอยากกินเลม่อนชีสเค้กนั่นเอง ^^ สำหรับใครที่ไม่มีเตาอบ ก็สามารถทำชีสเค้กแบบนี้กินกันได้นะคะ อร่อยมากๆ ด้วยล่ะ สำหรับสูตรเลม่อนเคิร์ด อ่านสูตรได้ที่นี่ค่ะ   http://www.bakewithheart.com/2021/01/lemon-curd.html หรือรับชมวิดีโอตรงนี้ ตามมาดูส่วนของชีสเค้กกันค่ะ สูตรเลม่อนชีสเค้ก สำหรับพิมพ์ 18 ซม. ไดเจสทีฟบิสกิต 100 กรัม เนยจืดละลาย 50 กรัม ครีมชีสฟิลาเดเฟีย 250 กรัม (เย็น) เจลาติน 3 แผ่น ไวค์ช็อคโกแลต 100 กรัม วิปปิงครีม 200 กรัม ผิวเลม่อนขูดหนึ่งผล น้ำเลม่อนคั้น 3-4 ชต. (อยากให้ชิมรสกันเองเองว่าอยากให้เปรี้ยวแค่ไหน ปรับได้ตามชอบค่ะ) เริ่มจากบดไดเจสทีฟบิสกิต เราจะนำบิสกิตใส่ถุงพลาสติกแล้วทุบๆ ให้บิสกิตให้แตกก็ได้นะคะ หรือแบบแก้มคือใช้เครื่องปั่นเลยค่ะ  จากนั้นใส่เนยละลายลงไป  เคล้าๆ ให้เข้าทั่วๆ กัน จากนั้นกรุใส่พิมพ์ที่รองด้วยกระดาษพาร์ชเม้นต์ให้เรียบร้อยค่ะ ใช้ช้อนกดให้แน่นๆ นะคะ เสร็จแล้วนำไปแช่ตู้เย็นพักไว้ค่ะ ระหว่างนี้เราจะไปเตรียมในส่วนของครีมชีสกันต่ะ นำเจลาตินแช่น้ำเย็นพักไว้ค่ะ นำไวค์ช็อคโกแลตและวิปปิงครีมใส่เหยือกแก

Short time with my short cake - Special strawberry short cake




สวัสดีค่ะทุกๆ คน กว่าจะได้ฤกษ์มาเขียนบล็อกนี้ให้เสร็จสิ้น
ก็เซฟแล้วดราฟแล้วดราฟอีก ทำไปทำมาเนี่ย เขียนบล็อกกับจัดรูป
นานกว่าทำขนมจริงๆ ซะอีกนะเนี่ย^^ ไม่ได้บ่นนะคะ ฮ่าๆๆ
การทำขนมและทำบล็อกยังเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
ที่ขาดไปไม่ได้ค่ะ ถึงแม้จะว่าแบบว่าไม่ได้อัพบล็อกบ่อยๆ
เหมือนแต่ก่อนก็เถอะนะคะ

วันนี้เอาชอร์ทเค้กมาฝากค่ะ ทำไว้ตั้งแต่ 1 hr.shortcake
แต่ก็มีแต่ภาพ ไม่ได้มีสูตรอะไร เพราะว่า มัน 1 ชม.จริงๆ
รูปตอนทำก็ไม่ได้ถ่ายเก็บไว้นะคะ ตอนนั้นลูกหมูยังเล็กกว่านี้อยู่เลย
พอลูกหลับก็รีบมากๆๆ ตอนนี้เริ่มโตขึ้นหน่อย ก็พอทำได้บ้างเนอะ
ไม่มากก็น้อย อิ อิ

ส่วนของเค้กที่แก้มทำในวันนี้ ก็จะมีแค่สปองค์เค้ก น้ำเชื่อมลิเคียวราสเบอร์รี่
แล้วก็มาสคาร์โปเนชานทิลลี่นะคะ

มาดูกันเลยเนอะ


สำหรับสปองค์เค้ก

(สำหรับพิมพ์สี่เหลี่ยมขนาด 22 ซม. สองถาด)หรือ
(สำหรับถาดกระดาษพาร์ชเมนต์ขนาด 22*44 ซม. หนึ่งถาด)

ไข่ไก่ 3 ฟอง
ไข่แดง 2 ฟอง
น้ำตาลทราย 75 กรัม
แป้งเค้กหรือแป้งสาลีอเนกประสงค์) 95 กรัม (แก้มใช้แป้ง 00 ของอิตาเลียนนะคะ)
เกลือทะเลป่น 2 กรัม
นมสด 50 มล.
เนยสด 30 กรัม
กลิ่นวานิลลา 1/2 ชช.

สำหรับน้ำเชื่อมพรมเค้ก


น้ำ 35 มล.
น้ำตาลทราย 35 กรัม
Liqueur de framboises เหล้าราสพ์เบอร์รี่ 20-25 มล. (หรือตามชอบ)

สำหรับ Mascarpone chantilly
วิปปิงครีม 500 มล.
มาสคาร์โปเน 160 กรัม
น้ำตาลทราย 25 กรัม
กลิ่นวานิลลา 1/2 ชช.

สตรอเบอร์รี่ ประมาณ 250 กรัม

เตรียมน้ำเชื่อมพรมเค้ก

นำน้ำ น้ำตาลทรายใส่หม้อเล็กๆ ขึ้นตั้งไฟ
ใช้ช้อนคนให้น้ำตาลทรายละลายเข้ากันดี
ปิดไฟ พักไว้จนเย็น ก่อนเติมเหล้าราสพ์เบอร์รี่ค่ะ


เปิดวอร์มเตาอบที่ 180 °C

ร่อนแป้ง + เกลือ 2 รอบพักไว้

นำไข่ไก่ ไข่แดงและน้ำตาลทรายใส่หม้อแสตนเลสนำขึ้นตั้งไฟ
ใช้ตะกร้อมือคนเร็วๆ ให้ส่วนผสมอุ่นขึ้น ใช้ปลายนิ้วแตะดูจะรู้สึกอุ่นๆ นะคะ
ไม่ร้อนจนเกินไป

เทไข่ใส่ชามแก้วใบใหญ่อีกใบ แล้วใช้เครื่องตีไข่ตีด้วยสปีดปานกลาง
จนไข่ขึ้นฟู อาจจะใช้เวลานานนิดนึงนะคะ เมื่อยกหัวตีขึ้นแบทเทอร์จะ
ค่อยๆ หยดลงและทิ้งรอยจางๆ ไว้ที่ผิวค่ะ ลองไปทำและสังเกตดูนะคะ ^^

ใส่กลิ่นวานิลลา จากนั้นเทแป้งที่ร้อนแล้วลงไปทั้งหมด
ใช้ตะกร้อมือผสมให้เข้ากัน เบามือและเร็ว (ถ้าถนัดพายยางก็ใช้พายยางนะคะ)
แล้วแต่ค่ะ


นำเนยและนมใส่แก้วทนความร้อนแล้วนำไปละลายในไมโครเวฟค่ะ
ของแก้มใส่ไป ประมาณ 35 วินาทีนะคะ ส่วนเนยยังละลายไม่หมด
แต่ก็เอาช้อนคนๆ เพราะส่วนนมค่อนข้างร้อนค่ะ เมื่อละลายเข้ากันหมดแล้ว
ก็จะอุ่นพอดีค่ะ

ตักแบ่งแบทเบอร์ 1/3 หรือ 1/4 ส่วนแล้วแต่ค่ะ มาใส่ถ้วยเนยละลาย
แล้วผสมให้เข้ากันดี เทแบทเทอร์ส่วนนี้กลับไปในส่วนแรก แล้วตะล่อม
ให้เข้ากันดีอีกครั้ง ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ

ถ้ามีพิมพ์สี่เหลี่ยมขนาด 22 ซม. สองถาด ก็รองพิมพ์ด้วยกระดาษพาร์ชเม้นต์นะคะ
แต่ถ้าไม่มี ก็เอาแม็กเย็บถาดกระดาษไขขนาด 22*44 ซม. หนึ่งถาด
ก็ใช้ได้เหมือนกันค่ะ

เทแบทเทอร์ใส่พิมพ์ เสร็จแล้วกระแทกพิมพ์สัก 2 ที ไล่ฟองอากาศที่ผิวหน้าขนม
เล็กน้อย เมื่อนำขนมใส่เตาเรียบร้อยให้ลดไฟเตาอบลงเหลือที่ 170 °C ค่ะ
อบประมาณ 8-10 นาที ค่ะ


เมื่อขนมสุกแล้วก็ัพักไว้ให้เย็นค่ะ เสร็จแล้วใช้มีดตัดให้ได้ขนาด 20*20 ซม.
ทั้งสองชิ้น


นำเค้กชิ้นแ่รกวางลงไปในพิมพ์มูสริงขนาดสี่เหลี่ยม 20 ซม.ค่ะ
(จริงๆ จะไม่ใช้มูสริงก็ได้นะคะ แค่ปาดๆ ครีมก็ใช้ได้ค่ะ แต่นะสกิลการปาดครีมของแก้ม
มันแย่จริงๆ ขอใช้ตัวช่วยนิดนึงนะคะ 555)

เอาแปรงจุ่มน้ำเชื่อมพรมเค้ก ให้ทั่วชิ้นเค้ก (ก็ประมาณครึ่งหนึ่งของน้ำเชื่อมทั้งหมด)

ตอนนี้ก็มาเตรียมมาสคาร์โปเน่ชานทิลลี่กันค่ะ

นำวิปปิงครีม น้ำตาลทราย มาสคาร์โปเน่และกลิ่นวานิลลา
ใส่ชามแก้วรวมกัน แล้วก็ตีด้วยสปีดกลางจนขึ้นฟูค่ะ
ระวังนิดนึงนะคะ เพราะมาสคาร์โปเน่จะแยกและแตกตัวง่ายมากๆ

ปาดครีมชานทิลลี่มาสคา์ร์โปเน่ลงไปค่ะ เอาให้หนาประมาณ 1 ซม.ค่ะ


หั่นสตรอเบอร์รี่เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมใส่ลงไปให้ทั่วๆ พิมพ์ค่ะ หรือจะใช้ครึ่งลูก
ทั้งลูก ก็ตามใจเหมือนกันนะคะ ช่วงนี้สตรอเบอร์รี่บ้านแก้มลูกใหญ่เกิ๊น
จะใส่ทั้งลูก หั่นครึ่งลูกแล้วก็ยังใหญ่เกินไปอยู่ดี ฮ่าๆๆ แต่ประเด็นที่สำคัญที่สุด
เลยก็คือ คนที่ขอให้ทำเค้กชิ้นนี้ให้หม่ำ เขารีเควสว่า ขอสตรอเบอร์ชิ้นเล็กๆ
ก็เลยออกมาเป็นแบบนี้ไปแทนค่ะ

ตามด้วยครีมหลังจากชั้นสตรอเบอร์รี่หนาประมาณ 1 ซม. เท่าเดิมค่ะ
จากนั้นปิดทับด้วยสปองค์เค้ก พร้อมกับพรมน้ำเชื่อมที่เหลือลงไปทั้งหมด
ให้ทั่วๆ และชุ่มค่ะ ปาดครีมลงไปอีกครั้ง แล้วใช้สปาตูลาแบบยาวหรือจะใช้
สันมีดเลื่อย (ด้านที่ไม่เป็นรอยหยักนะคะ) ปาดเสมอขอบพิมพ์อีกครั้ง
เท่านี้หน้าเค้กก็เรียบเนียนแล้วค่ะ


จาำกนั้นนำเค้กไปพักในตู้เย็น ถ้าจะให้อร่อยมาก ทิ้งไว้ 1 คืนค่ะ
ทั้งครีม น้ำเชื่อมและกลิ่นสตรอเบอร์รี่ ทุกสิ่งอย่างที่เราได้ใส่ลงไป
เขาจะเซ็ท ทั้งกลิ่นและรสสัมผัสจะนัวกำลังดีค่ะ ^^

จะมีครีมเหลือพอที่จะบีบตกแต่งเค้กได้นะคะ แต่แก้มไม่ได้ใช้เลยค่ะ
เพราะทำเสร็จปุ๊บ ก็ไม่ได้ทิ้งไว้ 1 คืนทั้งก้อน มีคนมาแงะไปหม่ำ่ก่อนค่ะ
ฮ่าๆๆๆ เอาเป็นว่า ถ้าไม่ต้องการครีมบีบเพื่อตกแต่งใดๆ ด้านบนเค้กเลย
ให้ตีครีม 1 ส่วน 3 สูตรนะคะ จะได้พอดีๆ ค่ะ แต่ถ้าต้องการตกแต่ง
บีบครีมประดับเล็กน้อย ตรงขอบเค้กอะไรแบบนี้ ก็ตีเต็มสูตรได้เลยค่ะ ^^

ก่อนตัดเค้กอย่าลืมเอามีดจุ่มน้ำร้อนและเช็ดมีดให้แห้งทุกครั้งนะคะ
ครีมจะได้ไม่เปื้อนชิ้นสตรอ์เบอร์รี่ที่เราหั่นไว้ค่ะ


ชิ้นที่แก้มตัดไปเสิร์ฟพี่แมทก็ดูดีอยู่นะคะ แต่ถ้าไม่ตัดทิ้งไว้
สิ่งต่อไปที่จะเห็นก็คือ ช้อนอยู่ในถาดขนม ฮ่าๆๆ พี่แมทไปยืนอยู่หน้าตู้เย็น
เอาช้อนจิ้มลงไป ก็จะแหว่งบ้างไรบ้าง เดินเปิดตู้เย็นกันทั้งวัน
ขำจริงๆ ^^


ส่วนของน้ำเชื่อมพรมเค้ก ก็ใช้เหล้าอื่นๆ ตามชอบได้นะคะ
ไม่จำเป็นว่าต้องเหล้าราสเบอร์รี่ อันนี้คือ แก้มชอบเองเป็นพิเศษ
ก็เราทำกินเองนี่นา เราชอบอย่างไหนก็ใส่แบบนั้นดีกว่าเนอะ


อ้ำๆ


อร่อยๆ นะคะ


ลูกหมูกั๊บ


Bake with heart Facebook

ตามไปอัพเดทกันได้ที่นี่นะคะ


Comments

  1. This comment has been removed by the author.

    ReplyDelete
  2. look beautiful and delicious naka.

    ReplyDelete

Post a Comment

Bake with heart